ทำความรู้จัก อนุมูลอิสระ ตัวร้ายทำลายผิวถึงระดับ DNA

อนุมูลอิสระ (Free Radicals) เป็นคำที่เราอาจได้ยินบ่อยๆ ในวงการสุขภาพและความงาม แต่คุณเคยสงสัยไหมว่าอนุมูลอิสระคืออะไร และมีผลกระทบต่อผิวของเราอย่างไรบ้าง ทำไมอนุมูลอิสระถึงมีความสามารถในการทำร้ายผิวได้มากมายขนาดนี้ มีปัจจัยใดเป็นตัวกระตุ้น แล้วถ้าหากเราต้องการจะป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระจากปัจจัยต่างๆ ต้องทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อผิว

ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับอนุมูลอิสระในแง่มุมต่างๆ เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถดูแลผิวพรรณของคุณให้คงความอ่อนเยาว์และสุขภาพดีอย่างยาวนาน

อนุมูลอิสระ (Free Radical) คือโมเลกุลที่ไม่เสถียรและไม่สมดุล เนื่องจากขาดอิเล็กตรอนในวงโคจรรอบนอกสุดไป ส่งผลให้โมเลกุลเหล่านี้ต้องขโมยอิเล็กตรอนจากโมเลกุลที่เสถียรอื่นๆ มาทดแทนเพื่อให้ตัวเองกลับมาสมดุล ทำให้เกิดโมเลกุลที่ไม่เสถียรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ จนไปกระทบถึงโครงสร้างต่างๆ ในร่างกาย ทำให้เกิดความเสียหายทางโครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์

ปัจจัยที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ
ปัจจัยที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่

  1. ปัจจัยภายใน
    ปัจจัยภายในเกิดจากกระบวนการเผาผลาญระดับเซลล์ (Cellular Metabolism) โดยปกติแล้ว ร่างกายมีระบบต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการรับมืออยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามเมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระจะลดลง หรือเมื่อมีการผลิตอนุมูลอิสระมากเกินกว่าที่ร่างกายจะกำจัดได้ อาจทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า Oxidative Stress ภาวะนี้จะนำไปสู่การสะสมของอนุมูลอิสระ และส่งผลเสียต่อเซลล์และร่างกายได้
  2. ปัจจัยภายนอก
    ปัจจัยภายนอกมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มจำนวนอนุมูลอิสระในร่างกาย เช่น

แสงแดด: รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากแสงแดด สามารถกระตุ้นการสร้างอนุมูลอิสระในผิวหนัง
มลภาวะ: ฝุ่นควันและสารเคมีในอากาศสามารถเพิ่มอนุมูลอิสระในร่างกาย

ผลกระทบของอนุมูลอิสระต่อผิว

อนุมูลอิสระถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในด้านความงาม เนื่องจากมีบทบาทสำคัญที่สามารถทำลายโครงสร้างผิวได้ลึกถึง DNA ทำให้เซลล์ในร่างกายเสื่อม ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น ดูแก่ก่อนวัย เกิดริ้วรอย จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ ผิวหนังอักเสบ ภูมิคุ้มกันที่ผิวหนังอ่อนแอ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังต่าง ๆ รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังอีกด้วย

วิธีรับมือและป้องกันอนุมูลอิสระที่ส่งผลต่อผิว

วิธีรับมือและป้องกันที่มีประสิทธิภาพและได้ผลดีที่สุด คือการทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50+ และ PA++++ ในปริมาณที่เหมาะสม และการใช้สกินแคร์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอความแก่ของเซลล์ผิวหนัง ป้องกันการเกิดริ้วรอย ทั้งริ้วรอยก่อนวัยและริ้วรอยแห่งวัย อีกทั้งยังช่วยให้ผิวแข็งแรง มีความทนทานต่อมลภาวะต่างๆภายนอก

ซึ่งสกินแคร์ที่ดีและมีประสิทธิภาพในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ควรมีส่วนผสมของสารดังต่อไปนี้

  • วิตามินซี (Ascorbic Acid) เป็นสารต้านสารอนุมูลอิสระที่นิยมค่อนข้างมาก ช่วยลดความหมองคล้ำ กระตุ้นคอลลาเจน 
  • Niacinamide หรือ วิตามินบี 3 ช่วยลดกระบวนการออกซิเดชันในชั้นเซลล์ผิว ลดการอักเสบของผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และยังช่วยลดการผลิตเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวได้อีกด้วย
  • ซีสเตียมีน (Cysteamine) สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพอย่างมากในการจัดการปัญหาฝ้า
  • กรดแทนนิค (Tannic Acid) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ ที่โดดเด่นในเรื่องของ Anti-aging เป็นอย่างมาก ช่วยลดริ้วรอย ปรับผิวกระจ่างใสและหยุดยั้งการเกิดสัญญาณแห่งวัย
  • กรดไฟติค (Phytic Acid) สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยควบคุมความมัน ปรับน้ำมันบนผิวให้สมดุล และลดรอยสิว

ทั้งนี้ไม่จำเป็นที่จะต้องมีอายุมากเกินไป หรือมีปัญหาผิวก่อนถึงจะใช้สกินแคร์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ แต่เราสามารถป้องกันได้ตั้งแต่ต้นตอการเกิด เพื่อให้ผิวอ่อนเยาว์ ชะลอการเกิดริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำและปัญหาผิวอื่นๆ ได้

ทำไม สารต้านอนุมูลอิสระ ถึงสำคัญต่อผิว?

ในยุคที่ผิวต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งแสงแดด มลภาวะ และความเครียด การดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่ส่วนผสมที่ช่วยออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง แล้วทำไมถึงมีความสำคัญและควรใช้เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ?

เพราะสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) สามารถยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระที่จะไปทำลายผนังเซลล์ผิว นอกจากจะกระตุ้นให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วขึ้นแล้ว ยังทำลายคอลลาเจนบนผิวจนอาจเกิดริ้วรอยและผิวแก่ก่อนวัยได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีความสำคัญอีกหลายประการ อาทิเช่น

  • ปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ และปัจจัยเสี่ยงภายนอก เช่น แสงแดดและมลภาวะ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการเกิดปัญหาผิวในอนาคตได้
  • ชะลอการเกิดริ้วรอย เพื่อผิวดูเรียบเนียนและคงความอ่อนเยาว์
  • กระตุ้นการฟื้นฟูและซ่อมแซมผิว ลดการอักเสบและความหมองคล้ำ ทำให้ผิวดูสดใสและสุขภาพดีขึ้น
  • กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและแข็งแรงขึ้น

หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ส่วนผสมที่ช่วยออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ จะช่วยให้ผิวดูสดใสและสุขภาพดี จึงทำให้การใช้สกินแคร์ที่สามารถต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ได้ เป็นขั้นตอนสำคัญในการดูแลผิว และหากใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ไฮยาลูรอน จะสามารถช่วยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อีกด้วย

Share