ทำไมครีมกันแดดถึงสำคัญ? แสงแดดตัวการหลักที่ไม่ควรมองข้าม

การเผชิญกับแสงแดดในชีวิตประจำวันไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป เพราะรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ไม่เพียงแต่เร่งให้ผิวคล้ำเสียหรือไหม้แดดเท่านั้น แต่ยังเป็นสาเหตุหลักของปัญหาผิวเรื้อรัง เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอย ไปจนถึงมะเร็งผิวหนัง การเลือกใช้ “ครีมกันแดด” จึงกลายเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรถูกละเลย ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงฤดูร้อน ฤดูฝน หรือแม้แต่ในวันครึ้มฟ้า เพราะรังสี UV ยังคงแฝงตัวอยู่แม้ไม่มีแสงแดดแรงๆ ก็ตาม

รังสี UV คืออะไร ทำร้ายผิวอย่างไร?

รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) จากแสงแดดประกอบด้วย 3 ประเภทหลัก ได้แก่ UVA, UVB และ UVC โดยที่

  • UVA เป็นรังสีที่ทำลายชั้นผิวได้ลึกที่สุด ทะลุได้ถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) สามารถทำลายคอลลาเจน รังสียูวีเอจึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และผิวแก่ก่อนวัย
  • UVB ตัวการหลักของอาการผิวไหม้แดด ผิวแดง รู้สึกระคายเคืองผิว เมื่อเผชิญแสงแดดจัดติดต่อกันเป็นเวลานาน และกระตุ้นให้เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์ผิว ซึ่งเสี่ยงต่อการพัฒนากลายเป็นมะเร็งผิวหนัง
  • UVC เป็นรังสียูวีที่มีความสั้นน้อยที่สุด ส่วนใหญ่จะถูกกรองโดยชั้นบรรยากาศโลกจึงไม่กระทบกับผิวหนังโดยตรง แต่ยูวีซีมีพลังงานมากที่สุด สามารถทำลาย DNA และ RNA ของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กได้ เช่น แบคทีเรีย เชื้อไวรัส เชื้อโรค ฯลฯ

จากงานวิจัยมากมายพบว่า รังสี UV เป็นสาเหตุหลักของปัญหาผิวถึง 80% เช่น จุดด่างดำ ความหมองคล้ำ และริ้วรอย

ครีมกันแดด สิ่งสำคัญในการดูแลและปกป้องผิวจากแสงแดด

การเลือกครีมกันแดด สิ่งสำคัญคือต้องดูที่ประเภทของสารกรองรังสี UV (UV Filters) ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์นั้น ๆ เพราะนี่คือหัวใจหลักที่จะบอกว่าครีมกันแดดนั้นมีประสิทธิภาพและปลอดภัยกับผิวของคุณจริงหรือไม่ นอกเหนือจากค่า SPF (ที่บอกความสามารถในการป้องกัน UVB) หรือ PA (ที่บอกความสามารถในการป้องกัน UVA) ที่เราคุ้นเคยกัน เพื่อเพิ่มความเข้าใจและการตัดสินใจ เรามาทำความรู้จักกับ 3 ฟิลเตอร์กันแดดที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพสูงกัน

ฟิลเตอร์กันแดด 3 ชนิดที่คุณควรรู้จักและมองหา

1. Uvinul A

  • ป้องกันรังสี UVA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รังสี UVA-1 ซึ่งเป็นช่วงคลื่นที่ยาวที่สุด สามารถทำลายผิวได้ลึกถึงชั้นคอลลาเจนและอิลาสติน การมี Uvinul A ในครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวจากการเกิดริ้วรอยก่อนวัยและความหมองคล้ำได้ดี
  • มีความเสถียรสูง ไม่สลายตัวง่ายเมื่อโดนแสงแดดจัด ๆ ทำให้มั่นใจได้ว่าครีมกันแดดจะยังคงปกป้องผิวได้อย่างต่อเนื่องตลอดวัน
  • เหมาะกับการใช้ร่วมกับ UV Filters ตัวอื่น เพื่อให้การปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB เป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น

2. Uvinul T 150

  • ป้องกัน UVB ทรงพลัง เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมในการป้องกันผิวไหม้แดดและมะเร็งผิวหนังที่เกิดจากการทำร้ายของรังสี UVB
  • ป้องกัน UVB ได้ดี เนื่องจากมีค่า extinction coefficient สูง (ค่าที่บ่งบอกถึงความสามารถของสารนั้นในการดูดกลืนแสงที่ความยาวคลื่นเฉพาะ) หมายความว่าแม้ใช้ในความเข้มข้นที่ไม่สูงมากนัก ก็ยังสามารถให้การปกป้องรังสี UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ทนต่อเหงื่อและน้ำ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง

3. Tinosorb S

  • ฟิลเตอร์กันแดดครอบจักรวาล เป็นฟิลเตอร์ที่นิยม เพราะสามารถปกป้องผิวได้ครอบคลุมทั้งรังสี UVA และ UVB
  • มีเสถียรภาพสูง ไม่สลายตัวเมื่อเจอแสงแดด (photo-stable) ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญมาก เพื่อให้กันแดดคงประสิทธิภาพในการปกป้องได้ตลอดวัน
  • เสริมการทำงานของ UV Filters ตัวอื่น Tinosorb S ไม่เพียงแค่ปกป้องตัวเอง แต่ยังช่วยให้สารกรองรังสีตัวอื่น ๆ ที่อาจสลายตัวง่ายเมื่อเจอแสงแดด
  • ปลอดภัย เหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย

นวัตกรรมครีมกันแดดที่ให้มากกว่าการปกป้อง

ทีมวิจัย ALPHASCIENCE ได้พัฒนาครีมกันแดดสูตรล้ำสมัย เน้นนวัตกรรมการปกป้องผิวแบบหลายชั้น (multi-layer protection approach) โดยเลือกใช้ Uvinul A, Uvinul T150 และ Tinosorb S เป็นฟิลเตอร์กันแดดในการปกป้อง มาในผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่า ALPHASCIENCE ULTRA SHIELD ไม่เพียงแต่ปกป้องผิวจากแสงแดด แต่ยังรวมคุณสมบัติการบำรุงและฟื้นฟูผิวเข้าไว้ด้วยกัน โดยแบ่งกลไกการปกป้องผิวออกเป็น 3 ระดับที่ทำงานร่วมกัน

  1. ปกป้องผิวจากรังสีอย่างมีประสิทธิภาพสูง (UV PROTECTION)
    • ทำหน้าที่เป็นด่านแรกในการสกัดกั้นและลดผลกระทบจากรังสี UV ทั้ง UVA และ UVB ที่จะทำร้ายผิว
  2. ฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ ด้วย Antioxidants และ Prebiotics (BIOLOGICAL DEFENSE)
    • Antioxidants (สารต้านอนุมูลอิสระ) ทำหน้าที่ต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดจากรังสี UV และมลภาวะ ลดความเสียหายระดับเซลล์ ลดการเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ ผิวเสื่อมสภาพ ริ้วรอยก่อนวัย
    • Prebiotics (พรีไบโอติกส์) ส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ดีบนผิวหนัง (Microbiome) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติให้แข็งแรง ทำให้ผิวมีภูมิต้านทานที่ดีขึ้นต่อปัจจัยภายนอก
  3. เสริมสร้างและซ่อมแซมโครงสร้างผิว (SKIN STRUCTURE REPAIR)
    • จุดเด่น คือ ความสามารถในการซ่อมแซมและฟื้นฟูโครงสร้างผิว ช่วยให้ผิวที่เสียหายกลับมาแข็งแรง ยืดหยุ่น และมีสุขภาพดีขึ้น ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เหนือกว่าครีมกันแดดทั่วไป

ALPHASCIENCE ULTRA SHIELD – สุดยอดการปกป้องผิวจากแสงแดด พร้อมการต้านอนุมูลอิสระขั้นสุด

ALPHASCIENCE ULTRA SHIELD ครีมกันแดดพรีไบโอติกส์ มอบการปกป้องหลายชั้นจากรังสียูวี พร้อมช่วยกระตุ้นกลไกการปกป้องผิวตามธรรมชาติ เน้นการดูแลแบบ ปกป้องและฟื้นฟู เพื่อการปกป้องผิวจากแสงแดดที่อาจทำร้ายผิว พร้อมฟื้นฟูผิวที่โดนทำร้ายจากแสงแดดและเสริมผิวให้แข็งแรง

  • การปกป้องแสงแดดขั้นสูง
    SPF 50+ PA++++ ป้องกันรังสี UVB และ UVA อย่างเต็มประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงจากความเสียหายที่เกิดจากแสงแดด
  • ฟื้นฟูและซ่อมแซมผิว
    อุดมด้วย 1% Ceramides, 1% Niacinamide และ 1% Prebiotics เสริมเกราะป้องกันผิวและกระตุ้นการฟื้นฟูเซลล์
  • ลดการเกิดฝ้า กระ ริ้วรอยจากแสงแดด
    ปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายด้วย สารต้านอนุมูลอิสระ และเสริมเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ ลดความหมองคล้ำ ควบคุมเม็ดสีผิว พร้อมชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
  • ดูแลผิวหลังการทำหัตถการ
    ปลอบประโลมผิว ลดความเสี่ยงจากอาการระคายเคือง รอยแดง และภาวะผิวคล้ำเสีย ผ่านการทดสอบแล้วหลังการทำหัตถการด้านความงาม

รวมฟิลเตอร์กันแดดทรงประสิทธิภาพเข้าไว้ด้วยกัน

การผสานฟิลเตอร์กันแดดอย่าง Uvinul A, Uvinul T 15 และ Tinosorb S เข้าไว้ด้วยกันใน ALPHASCIENCE ULTRA SHIELD สะท้อนถึงนวัตกรรมที่มุ่งเน้นทั้งประสิทธิภาพการปกป้องสูงสุด ความปลอดภัยของผู้ใช้ และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม โดยฟิลเตอร์ทั้งสามชนิดนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่า

  • เป็นมิตรต่อปะการัง (Coral Safe) ไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อระบบนิเวศทางทะเล
  • ปราศจากสารรบกวนฮอร์โมน (Endocrine Disruptors Free) เพิ่มความสบายใจและลดความกังวลด้านสุขภาพในระยะยาว
  • ความปลอดภัยสูง (High Safety) ด้วยคุณสมบัติที่คงตัว ไม่สลายตัวง่าย อ่อนโยนต่อผิว ทำให้ลดความเสี่ยงต่อการระคายเคือง

ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ การรวมกันของฟิลเตอร์กันแดดทั้งสาม จึงถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งของครีมกันแดด ที่เป็นมากกว่าแค่การปกป้องแสงแดด แต่เป็นการดูแลผิวอย่างรอบด้านควบคู่ไปกับการใส่ใจโลก

โดยรวมแล้ว ALPHASCIENCE ULTRA SHIELD ไม่ใช่แค่ป้องกันแสงแดดเพียงอย่างเดียว แต่ยังเน้นการปกป้องและฟื้นบำรุงผิวในระดับลึก เพื่อให้ผิวแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการปกป้องผิวแบบองค์รวมและผู้ที่ต้องการดูแลผิวหลังการทำหัตถการหรือผู้ที่มีผิวบอบบาง

Share